1.เฟชบุ๊ก
https://www.facebook.com
2.วิกิพีเดีย
https://th.wikipedia.org
3. กูเกิ้ลโคม
http://www.google.com
4. ยูทูป
https://www.youtube.com
5.สนุกดอทคอม
https://www.sanook.com
6. ยาฮู
https://www.yahoo.com
7. ไฮไฟล์
https://hi5.com
8.บล็อกเกอร์
https://draft.blogger.com
9.พันทิพ
https://pantip.com
10. โฟแชร์
https://www.4shared.com
11.เด็กดีดอทคอม
https://www.dek-d.com
12.อเมซอล
https://www.amazon.com
13.เมเนเจอร์
https://mgronline.com
14.ทวิตเตอร์
https://twitter.com
15.น่ารักดอทคอม
http://www.narak.com
16.ไทยรัฐดอทคอม
https://www.thairath.co.th
17. ลาซาด้า
https://pages.lazada.co.th
18.ขายดีดอทคอม
https://www.kaidee.com
19.ช้อปปี้
https://shopee.co.th
20.มูฟวี่ทูฟรี
https://movie2free.com
เว็บไซค์ที่ชื่นชอบ (รีวิว)
ปัจจุบัน Facebook ได้รับความนิยมกันมากในหมู่วัยรุ่น และบุคคลที่ต้องการสื่อสารกัน แม้ว่า Facebook จะถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สามารถติดต่อสัมพันธ์กันในทางบวก แต่ในทางกลับกัน Facebook ก็เป็นสื่อที่ก่อให้เกิดอันตรายได้ในเวลาเดียวกัน Facebook คืออะไร? Facebook เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการเครือข่ายสังคมบนอินเตอร์เน็ต โดยผู้ใช้สามารถใส่สร้างหน้าโปรไฟล์, อัพโหลดรูปถ่าย, อัพเดทสเตตัส, แชร์ข้อมูลต่างๆ และเชื่อมโยงต่อไปหาผู้ใช้อื่นๆ ได้
Facebook ก่อตั้งเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2004 โดย Mr. Mark Zuckerburg ปัจจุบันอายุ 31 ปี โดยขณะที่คิดค้นเวบไซต์นี้ Mr. Mark Zuckerburg เป็นนักศึกษาแผนกจิตวิทยา ของมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด สหรัฐอเมริกา และเว็บไซต์เปิดให้บริการเฉพาะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดในการเชื่อมโยงและติดต่อสื่อสารกันเท่านั้น ต่อมาได้ขยายเครือข่ายไปยังนักศึกษาในมหาวิทยาลัยอื่นๆที่อยู่ใน Ivy League (เช่น โคลัมเบีย, สแตนฟอร์ด, และเยล) จนมีสมาชิกมาใช้บริการกันอย่างล้นหลาม จึงทำให้มีการขยายเครือข่ายมากขึ้นและพัฒนามาถึงหลายล้านคนในโลกปัจจุบัน เรามาดูข้อดีและข้อเสียของ Facebook ดังนี้
ข้อดี
- ป็นการสร้างเครือข่ายและจุดประกายด้านการศึกษาได้อย่างกว้างขวาง หากใช้ได้อย่างถูกวิธี
- ทำให้ไม่ตกข่าว ทราบความคืบหน้า เหตุการณ์ของบุคคลต่างๆ และผู้ที่ใกล้ชิด
- ผู้ใช้สามารถสร้างเครือข่ายทางสังคม หรือผู้ที่มีเป้าหมายเหมือนกัน และทำงานให้สำเร็จลุล่วงไปได้
- สามารถสร้างมิตรแท้ หรือเพื่อนที่รู้ใจที่แท้จริงได้
- เป็นเว็บไซต์ที่เอื้อต่อผู้ที่มีปัญหาในการปรับตัวทางสังคม สร้างเครือข่ายที่ดี สร้างความเห็นอกเห็นใจ และให้กำลังใจที่ดีแก่ผู้อื่นได้
ข้อเสีย
- เป็นการขยายเครือข่ายทางสังคมในโลกอินเตอร์เน็ต การมีเพื่อนเพิ่มเครือข่ายที่ไม่รู้จักดีพอ จะทำให้เกิดการลักลอบขโมยข้อมูล หรือการแฝงตัวของขบวนการหลอกลวงต่างๆ ได้
- เพื่อนๆ ในเครือข่ายสามารถเขียนข้อความต่างๆ ลง Facebook ได้แต่หากเป็นข้อความที่เป็นความลับ การใส่ร้ายกัน จะทำให้ผู้อ่านที่ไม่มีวุฒิภาวะหลงเชื่อ เกิดความขัดแย้ง และปัญหาตามมาในภายหลังได้
- เป็นช่องทางในการสร้างสังคมแห่งการนินทา หรือการยุ่งเรื่องส่วนตัวของผู้อื่นโดยใช่เหตุ โดยเฉพาะสังคมที่ชอบสอดรู้สอดเห็น
- การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดให้กับบุคคลภายนอกที่ไม่รู้จักดีพอ เช่น การลงรูปภาพของครอบครัวหรือลูก เกิดการปลอมตัว หรือการหลอกลวงอื่นๆ ที่คาดไม่ถึงได้
- เด็กๆที่ใช้เวลาในการเล่น Facebook มากเกินไป จะทำให้เสียการเรียน
- ในการสร้างความผูกพันและการปรับตัวทางสังคมเป็นการพบปะกันในโลกของความจริงมากกว่าในโลกอินเตอร์เน็ต ดังนั้นผู้อยู่ในโลกของ ไซเบอร์มากเกินไปอาจทำให้มีปัญหาทางจิต หรือขาดการปรับตัวทางสังคมที่ดี
- เป็นแรงขับให้มีการพบปะทางสังคมในโลกแห่งความเป็นจริงที่น้อยลงได้เนื่องจากทราบความเคลื่อนไหวของผู้ที่อยู่ในเครือข่ายอย่างตลอดเวลา
- นโยบายของบางโรงเรียน บางมหาวิทยาลัย บางครอบครัวหรือในบางประเทศมีปัญหามากมายที่เกิดจาก Facebook ทำให้ไม่ได้รับการอนุญาตให้มีในหลายพื้นที่
บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ปกครองควรเอาใจใส่ลูกหลานของท่านที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นซึ่งนิยมท่องโลกอินเตอร์เน็ต ให้มีความระมัดระวังและมีวิจารณญาณในการเล่น Facebook มากยิ่งขึ้น เพราะเป็นทั้งสื่อที่มีทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์ในเวลาเดียวกันด้วย